ก่อนที่คุณจะกำจัดรอยคล้ำรอบดวงตาได้นั้น คุณต้องเข้าใจที่มาที่ไปก่อน รอยคล้ำรอบดวงตาเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อายุที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต โดยสาเหตุที่พบบ่อยสุดของรอยคล้ำรอบดวงตามีดังนี้:

• • อายุที่เพิ่มขึ้น – หนึ่งในสาเหตุของการเกิดรอยคล้ำรอบดวงตาที่พบบ่อยที่สุดคืออายุที่เพิ่มขึ้น โดยครีมลดเลือนริ้วรอยสามารถ ช่วยป้องกันที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้ (จะอธิบายเพิ่มเติมในภายหลัง)
• • ภาวะขาดน้ำ – เราเน้นย้ำเสมอถึงความสำคัญของการดื่มน้ำเพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีและชุ่มฉ่ำ ผิวที่บอบบางรอบดวงตาก็ไม่ต่างกัน การดื่มน้ำไม่เพียงพอตลอดทั้งวันอาจทำให้รอยคล้ำรอบดวงตาแลดูชัดขึ้นได้~
• • การนอนไม่เพียงพอ – คุณนอนไม่เต็มอิ่มใช่ไหม การนอนครบ 8 ชั่วโมงมีความสำคัญต่อการป้องกันการเกิดรอยคล้ำรอบดวงตา เพราะการนอนไม่พอจะทำให้ถุงใต้ตาบวม และดูหมองคล้ำ
• • ความเสียหายจากอนุมูลอิสระ – อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่พบในสารมลพิษ รังสี UV และแสงสีฟ้าที่ทำลายเซลล์ผิวหนัง โดยอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถทำลายผิวหนังที่บอบบางบริเวณใต้ตา ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร รวมถึงรอยคล้ำรอบดวงตาด้วย
• • พันธุกรรม – รอยคล้ำรอบดวงตาไม่ได้เกิดจากไลฟ์สไตล์เสมอไป แต่อาจเป็นเพียงลักษณะที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม หากครอบครัวของคุณมีประวัติการมีรอยคล้ำรอบดวงตา นี่ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะประสบกับปัญหาเดียวกัน

หลายคนเข้าใจว่ารอยคล้ำรอบดวงตาและถุงใต้ตาดำเป็นสิ่งเดียวกัน แต่แท้ที่จริงแล้วไม่เหมือนกัน ความแตกต่างหลักคือรอยคล้ำรอบดวงตาคือการที่ผิวบริเวณใต้ตามีสีที่คล้ำขึ้น ในขณะที่ถุงใต้ตาคืออาการบวมหรือพองบริเวณใต้ตา แต่สาเหตุของการเกิดถุงใต้ตานั้นคล้ายกับรอยคล้ำรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ

ส่วนใหญ่แล้ว รอยคล้ำรอบดวงตาจะจางลงได้ หากปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต (เช่น นอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น ดื่มน้ำให้มากขึ้น) และมีกิจวัตรการดูแลผิวที่เหมาะสมเพื่อลดรอยคล้ำรอบดวงตา

ต้องการกำจัดรอยคล้ำรอบดวงตาให้หมดสิ้นไปเสียทีใช่ไหม สิ่งที่คุณต้องรู้มีดังนี้:

• • นอนหลับพักผ่อน – การหลับเต็มอิ่มเพียงไม่กี่คืนก็สามารถทำให้รอยคล้ำรอบดวงตาดูจางลงได้ ทำให้ร่างกายคุ้นชินกับการนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืนอย่างสม่ำเสมอ
• • ดื่มน้ำ – เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยการดื่มน้ำในตลอดทั้งวัน
• • ยกระดับกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ – มีกิจวัตรการดูแลผิวที่ดีขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงฟื้นฟู และป้องกันการเกิดรอยคล้ำรอบดวงตาอย่างมอยเจอร์ไรเซอร์และอายครีม
• • ปกป้องบริเวณใต้ตา – การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SPF และเปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสามารถปกป้องบริเวณใต้ตาจากอนุมูลอิสระและรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้
• • ปกปิดรอยคล้ำรอบดวงตา – ใช้คอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยคล้ำรอบดวงตา หากคุณต้องการการแก้ไขแบบชั่วคราว

หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนที่มีรอยคล้ำรอบดวงตาควรมีคือครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีคุณภาพ ครีมบำรุงรอบดวงตาของคุณต้องทำได้ 3 อย่าง นั่นคือ เพิ่มความกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องผิว Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme ของเราทำได้ครบทั้ง 3 ประการ ทั้งซ่อมแซมผิว ลดถุงใต้ตา และเพิ่มความกระชับของผิวรอบดวงตา อีกทั้งลดรอยคล้ำรอบดวงตาให้แลดูกระจ่างใสขึ้นภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์*

หากคุณมีปัญหารอยคล้ำรอบดวงตา เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น อายครีมอย่าง Revitalizing Supreme+ Youth Power Eye Balm จะบำรุง ฟื้นฟู และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับสัญญาณแห่งวัย อีกทั้งลดริ้วรอยบริเวณผิวใต้ตาที่บอบบางให้ดูจางลง

สำหรับใครที่ต้องการการบำรุงผิวรอบดวงตาด้วยความหรูหราขั้นสุด ขอแนะนำ Re-Nutriv Ultimate Diamond Transformative Eye Creme ช่วยให้ผิวรอบดวงตาแลดูสว่างสดใส ดูกระชับยิ่งขึ้น รอยคล้ำดูลดเลือนลง เผยผิวที่ดูมีชีวิตชีวาและสดชื่นกว่าที่เคย จากสารสกัดอันล้ำค่า Black Diamond Truffle Extract ผสานด้วยเทคโนโลยีเพื่อผิวแลดูกระชับได้รูปที่ก้าวล้ำ

*จากการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ โดย SGS Stephens, Inc Research Center สหรัฐอเมริกา ในอาสาสมัคร 55 ราย ระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคม 2564

วิตามินอีเป็นส่วนผสมที่ทรงพลังสำหรับการดูแลผิว โดยเฉพาะเรื่องการลดรอยคล้ำรอบดวงตา วิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่นำไปสู่รอยคล้ำรอบดวงตาได้ เราจึงแนะนำให้ใช้ Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme ที่เปี่ยมด้วยวิตามินอีของเราเพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

เมื่อมีอายครีมที่ดีที่สุดสำหรับรอยคล้ำรอบดวงตาแล้ว เรามาพูดถึงการนำผลิตภัณฑ์นี้มาใช้ในกิจวัตรประจำวันของคุณกัน

เริ่มทุกเช้าของคุณด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิวอย่าง Micro Essence Treatment Lotion with Bio-Ferment เพื่อเสริมสร้าง ปลอบประโลม และบำรุงผิว ต่อด้วยการทาเซรั่มผิว จากนั้นใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีสารปกป้องรังสี UV อย่าง DayWear 24H Moisturizer SPF 15 แล้วปล่อยให้มอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าผิวให้หมดก่อนทาอายครีมที่บริเวณใต้ตา
ทุกคืน เริ่มต้นด้วยคลีนเซอร์อย่าง Perfectly Clean Multi-Action Foam Cleanser เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่พบเจอมาทั้งวันจากผิวให้สะอาด จากนั้น ทาโลชั่นบำรุงผิว ตามด้วยเซรั่มฟื้นบำรุงอย่าง Advanced Night Repair Serum เมื่อเซรั่มฟื้นบำรุงของคุณซึมเข้าผิวหมดแล้ว ให้ทามอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับกลางคืนอย่าง Revitalizing Supreme+ Night Moisturizer จากนั้นทาอายครีมที่คุณเลือกใช้